เวลาหาข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้าน มักจะพบว่าค่าใช้จ่ายที่ถูกพูดถึงจะเป็น เงินดาวน์ เงินค่าธรรมเนียมธนาคาร ค่าธรรมเนียมเมื่อไปกรมที่ดิน และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้กับธนาคาร แต่เอาเข้าจริงในการซื้อบ้านก็มีค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ ที่คนจะซื้อบ้านควรเตรียมรับให้ดี

 

1. ค่าจ้างออกแบบ (ถ้าเป็นบ้านสร้างเอง)

ถ้าเป็นคอนโดมิเนียมหรือในกรุงเทพฯ การซื้อที่อยู่อาศัยมักเป็นการซื้อจากบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ เช่นบ้านจัดสรร ทาวน์โฮมในโครงการ หรือคอนโดมิเนียม แต่สำหรับการก่อสร้างบ้านในต่างจังหวัด คนส่วนใหญ่ยังนิยมสร้างบ้านบนที่ดินเดิมอยู่ และถ้าเป็นการขอยืมเงินธนาคารมาสร้างก่อน ก็ต้องมีค่าจ้างในการเขียนแบบบ้านเพื่อยื่นกู้ บางคนอาจเลือกใช้แบบบ้านสำเร็จรูป ซึ่งก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้

 

2. ค่าตกแต่ง

เวลายื่นขอสินเชื่อหลายคนจะพลาดในจุดนี้ คือคำนวณแค่ค่าบ้านแต่ไม่ได้บวกค่าตกแต่งเข้าไปด้วย ซึ่งจะทำให้สร้างบ้านเสร็จแต่ไม่มีเงินตกแต่งต่อ

 

3.ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้

ส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับธนาคารเจ้าของเงินที่คุณไปยื่นกู้มา ในอัตรา 0.01% ในบางธนาคารจะมีการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ถ้ายอดขอสินเชื่อไม่ถึงจำนวนที่กำหนดไว้ (ส่วนมากเป็น 500000 บาท)

 

4.ค่าประกัน

ประกันที่เกี่ยวกับบ้านมีทั้งประกันภาคบังคับเช่นประกันอัคคีภัย ที่ถ้าซื้อบ้านผ่านโรงการหรือคอนโดมิเนียมจะต้องซื้อส่วนมากเป็นประกันระยะสั้น 1 – 3 ปี มีหลากหลายบริษัทผู้ให้บริการมักขายมากับธนาคารในวันทำสัญญา ซึ่งประกันอัคคีภัยจะคุ้มครองเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากไฟไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจร เป็นต้น

 

นอกจากนี้ยังมีประกันที่ไม่บังคับให้ทำ เช่นประกันสินเชื่อบ้าน ที่ทำขึ้นเผื่อในกรณีที่เราเสียชีวิตก่อนผ่อนบ้านหมด ประกันชนิดนี้เป็นประกันที่มีราคาแพง และความคุ้มครองจะหักล้างกับราคาบ้านพอดี และไม่ได้บังคับให้ทำ ดังนั้นหลายคนที่มีความกังวลว่าตัวเองจะเสียชีวิตก่อนผ่อนบ้านหมดแล้วตกเป็นภาระของคนอื่น จึงเลือกทำประกันชีวิตที่วงเงินประกันใกล้เคียงกับหนี้บ้านไว้มากกว่า เพราะมีโอกาสที่ใช้หนี้บ้านหมดแล้วยังเหลือเงินก้อน รวมทั้งบางกรมธรรม์มีเบี้ยประกันที่ถูกกว่า

 

5.ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟ

เป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับการประปาและการไฟฟ้าเพื่อให้บ้านของเราสามารถใช้น้ำใช้ไฟได้ตามปกตินั่นเอง