สำหรับคนขายบ้าน ทุกคนย่อมอยากขายให้ได้กำไรมากที่สุด โดยอาจลืมไปว่าการตั้งราคาแพงเกินไป คนซื้อไม่สามารถซื้อได้ก็อาจทำให้ขายไม่ออก หรือหากตั้งราคาขายถูกเกินไป ก็อาจจะไม่ได้กำไร และเผลอๆ อาจจะขาดทุนเสียแทน 

 

หรือหากจะเชื่อตามที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนมากบอกๆ กันมา คือให้ตั้งราคาตามทำเล ถ้าทำเลดีจะราคาเท่าไหร่ก็มีโอกาสขายได้ไม่ยาก แต่นั่นก็อาจจะไม่จริงเสมอไป

 

แล้วแบบนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าควรตั้งราคาเท่าไหร่ถึงจะดี? 

 

“ตั้งราคาขายจากต้นทุน” ต้นทุนของบ้านหนึ่งหลังคืออะไร หลายคนอาจจะรีบตอบทันทีว่าก็ราคาที่ซื้อมายังไงล่ะ แต่นั่นไม่ใช่คำตอบเดียวที่เป็นไปได้หรอก! 

 

เพราะจริงๆ แล้วต้นทุนยังหมายถึงสิ่งที่เราทุ่มเทลงไปกับบ้านหลังนี้ ที่ไม่ได้หมายถึงเงินอย่างเดียว แล้วอย่างนี้จะมีต้นทุนอะไรบ้างที่จะใช้ในการตั้งราคาขายบ้านหนึ่งหลัง? 

 

ราคาซื้อ แน่นอนราคาซื้อเป็นสิ่งแรกที่ต้องนึกถึงในการตั้งราคาขายบ้าน ซึ่งในส่วนนี้เจ้าของบ้านน่าจะทราบดีตั้งแต่แรก

 

ราคากลางในปัจจุบัน สืบได้จากทำเลที่เราอยู่ว่าบ้านที่มีลักษณะใกล้เคียงกับบ้านที่เรากำลังอยากขายส่วนมากตั้งราคาขายอยู่ที่เท่าไหร่

 

ค่าตกแต่งซ่อมแซมก่อนการขาย เพราะเป็นบ้านที่มีการอยู่อาศัยมาก่อนแล้ว ยิ่งหลายปีก็ยิ่งมีความเสื่อมโทรม ดังนั้นก่อนจะขายก็จำเป็นจะต้องมีการซ่อมแซมให้บ้านอยู่ในสภาพที่ดีและสวยงาม ซึ่งส่วนมากการซ่อมบ้านก่อนขายก็มักเป็นการทำให้ระบบต่างๆ อยู่ในสภาพใช้งานได้ เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา และมีการทาสีใหม่ เป็นต้น

 

ค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย เช่น ค่าโอน ภาษีต่างๆ ที่ต้องจ่าย โดยสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของกรมที่ดิน

 

การตั้งราคาขายในแบบแรกนี้ก็ให้นำต้นทุนทั้งหมดนี้มาบวกกัน และบวกกับกำไรที่อยากได้ตั้งแต่ต้นก็จะได้ราคาขายที่เหมาะสมจากต้นทุนที่เราลงทุนไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาขายที่ได้ก็ไม่ควรจะเกินราคากลางในทำเลนั้นๆ ไปมากนัก

 

“ตั้งราคาขายจากกลุ่มผู้ซื้อ” วิธีที่ 2 ที่เราจะใช้ในการตั้งราคาขายบ้านที่เหมาะสม ก็คือการตั้งราคาจากคนที่มาติดต่อขอซื้อเองนั่นแหละ 

 

โดยส่วนมากแล้วในประเทศไทยกลุ่มผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์จะแบ่งออกตามเงินในกระเป๋าได้ 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มที่ซื้อเงินสด และกลุ่มที่ซื้อผ่านสถาบันการเงิน 

 

โดยในกลุ่มแรกนั้น คือ กลุ่มที่พร้อมจ่ายทั้งก้อนทันทีซึ่งน่าจะเป็นเรื่องถูกใจสำหรับคนขายแน่นอน ทว่า กลุ่มนี้มีอยู่เพียง 10% เท่านั้น 

 

ในขณะที่กลุ่มหลังซึ่งมีจำนวนมากกว่า แต่ก็มักจะมีเงื่อนไขที่มากกว่าเช่นกันในการชำระเงิน ซึ่งกว่าจะขายได้เสร็จสิ้นกระบวนความก็เรียกว่ายากเย็นพอสมควร 

 

ดังนั้นหากลูกค้าของเราจัดอยู่ในกลุ่มแรก เราสามารถตั้งราคาขายให้ถูกกว่าได้เรียกว่าตอบแทนความสะดวกรวดเร็วในการซื้อขายที่พวกเขามอบให้ 

 

แต่หากเป็นกลุ่มที่ 2 แล้ว การตั้งราคาขายก็จะสูงกว่าเล็กน้อย คล้ายๆ กับเวลาที่เราต้องซื้อของเงินสดกับเงินผ่อน ซึ่งเมื่อใดที่เราตัดสินใจซื้อของแบบผ่อนชำระแล้วก็มักจะมีราคาที่แพงกว่าการซื้อเงินสดเสมอนั่นเอง

 

บ้านหรืออสังหาริมทรัพย์นั้น ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาแพง และมีผลกับการใช้ชีวิตระยะยาวสำหรับคนที่มองหาบ้านเพื่ออยู่อาศัย จึงไม่แปลกที่พวกเขาเหล่านั้นมักจะต้องใช้เวลาคิดก่อนตัดสินใจเป็นเวลานาน ดังนั้นการขายบ้านให้ได้สักหลังจึงไม่ใช่แค่การตั้งราคาตามใจคนขายเพียงอย่างเดียว

 

------------------------

 

ติดตามเรื่องราวอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอสังหาฯ
ที่อ่านง่าย ได้ความรู้ พร้อมบริการซื้อ ขาย จำนอง ที่ดิน
อสังหาริมทรัพย์ บ้านและคอนโด ได้ที่ : https://assawinasset.com/

อัศวินแอสเสท : ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ด้านอสังหาฯ ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในประเทศไทย เพียง 0.75% ต่อเดือน

ค่าดำเนินการต่ำ ไม่ผ่านหน้านาย อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สัญญาสูงสุด 10 ปี!! ไม่เช็คเครดิต ไม่เช็คการเงิน ไม่ต้องค้ำประกัน ปลอดภัย เชื่อถือได้

เพียงคุณมีสินทรัพย์หรือโฉนดที่ดิน ต้องการเงินด่วน
ปรึกษาเราได้ที่ โทร. 087-441-8888, 098-885-0479

Line@ : https://lin.ee/tIpO804

#AssawinAsset #รับจำนอง #รับขายฝาก #ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ #สินเชื่อดอกเบี้ยถูก
#อัศวินแอทเสทสินเชื่อเคียงข้างนักลงทุน