อะไรทำให้ผู้ซื้ออสังหาฯ มีแนวโน้มใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อบ้านนานขึ้น

บทความเกี่ยวกับอสังหา

ปกติแล้ว อสังหาฯ ก็เป็นทรัพย์สินที่คนจะใช้เวลาตัดสินใจในการซื้อค่อนข้างนาน โดยช่วงก่อนโควิด ผู้ซื้อจะใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ขึ้น มีผลการสำรวจจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC) เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้พบว่า ผู้ซื้ออสังหาใช้เวลาในการตัดสินใจโดยเฉลี่ยนานขึ้นถึง 2 ปี นั่นหมายถึง การขายบ้านอาจจะยากขึ้นเป็น 2 เท่าด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าระยะเวลาในการตัดสินใจดังกล่าว อาจยืดเป็น 3 – 5 ปีได้อีกด้วย ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น

ผลการสำรวจผ่านช่องทางออนไลน์ โดย Consumer Insight ของ REIC จำนวน 800-1,000 คน สะท้อนว่า ช่วงก่อนโควิด-19 กระบวนการตัดสินใจซื้อใช้เวลาประมาณ 1 ปี (12 เดือน) จนมาถึงช่วงเกิดการระบาดจะใช้เวลา 2 ปี (24 เดือน) ในการตัดสินใจ และล่าสุดที่ได้รับข้อมูล อาจต้องใช้เวลา 3-5 ปีในการตัดสินใจซื้อบ้าน เนื่องจากสถานการณ์ไม่ได้เอื้อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ในระยะเวลาที่รวดเร็วนัก"(-ข้อมูลจาก REIC) https://www.reic.or.th/News/RealEstate/454109

โดยสาเหตุหลักคือความกังวลจากผลกระทบของโควิด 19 ซึ่งส่งผลต่อรายได้ จึงทำให้ผู้ซื้อยังไม่กล้าก่อหนี้ก้อนใหญ่แบบการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ เพราะไม่มั่นใจว่าจะสามารถใช้หนี้ก้อนนี้ได้ในอนาคตหรือไม่ รวมทั้งผู้ซื้อ 60% มองว่าการเพิ่มภาระหนี้ในขณะนี้เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น สามารถรอได้ และมองทางเลือกคือการเช่าอยู่อาศัยแทนการซื้อ

นั่นหมายความว่า หากคุณเป็นผู้ขายที่อยู่อาศัย โอกาสในการขายขาดไปเลยอาจจะน้อยกว่าการปล่อยเช่า ดังนั้นถ้าคุณสามารถปรับเปลี่ยนจากการขายให้เป็นการเช่าได้ ก็จะช่วยให้มีโอกาสสร้างรายได้จากอสังหาฯ ที่อยู่ในมือได้ง่ายกว่า

สาเหตุรองลงมาที่ทำให้ผู้ซื้อยังไม่กล้าตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ในช่วงเวลานี้ เป็นเพราะกลัวเสียโอกาสในการได้รับโปรโมชั่นที่ดีที่สุด เนื่องจากการพยายามจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อระบายสต็อกคอนโดมิเนียมโครงการเก่าของบริษัทต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมาย จนลูกค้ากลัวว่า หากเลือกโครงการนี้ไปแล้วในปัจจุบัน โครงการเดียวกันหรือโครงการที่มีคุณภาพเทียบเท่ากันจะมีโปรโมชั่นที่ดีกว่าในอนาคต ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจในปัจจุบันเกิดเป็นความไม่คุ้มค่า

สาเหตุนี้อาจไม่กระทบกับผู้ขายที่เสนอขายที่อยู่อาศัยมือสองโดยตรงมากนัก  แต่อาจส่งผลกระทบโดยทางอ้อม คือถ้าคอนโดมิเนียมโครงการใหม่มีราคาที่ปรับลดลงมาก และยังมีรายการลดแลกแจกแถมมากมาย จนราคาใกล้เคียงกับคอนโดมิเนียมมือสอง การซื้อมือหนึ่งจากโครงการใหม่ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า

ส่วนสาเหตุต่อมาคือสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีความผันผวน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตัวเลข GDP ในอนาคต ตามมาด้วยการขอสินเชื่อจากธนาคารที่มีความยากมากขึ้น เพราะความเสี่ยงในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อในภาพรวมเพิ่มขึ้น ธนาคารจึงค่อนข้างเข้มงวดในการปล่อยกู้ และเหตุผลสุดท้ายคือความกังวลในการวางเงินดาวน์ ที่จะต้องเอาเงินก้อนออกมาใช้ก่อน

โดยผลการสำรวจดังกล่าวยังชี้ให้เห็นอีกว่า ผู้ซื้อมีแนวโน้มจะเลือกที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้กับสถานพยาบาลหรือตอบโจทย์ในด้านสุขอนามัยมากขึ้น ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา อาจทำให้ผู้ขายอสังหาฯ ต้องมีระยะเวลาในการครอบครองบ้านนานขึ้นตามไปด้วย 

-------------------------

ติดตามเรื่องราวอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอสังหาฯ
ที่อ่านง่าย ได้ความรู้ พร้อมบริการซื้อ ขาย จำนอง ที่ดิน
อสังหาริมทรัพย์ บ้านและคอนโด ได้ที่ : https://assawinasset.com/

อัศวินแอสเสท : ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ด้านอสังหาฯ ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในประเทศไทย เพียง 0.75% ต่อเดือน

ค่าดำเนินการต่ำ ไม่ผ่านหน้านาย อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สัญญาสูงสุด 10 ปี!! ไม่เช็คเครดิต ไม่เช็คการเงิน ไม่ต้องค้ำประกัน ปลอดภัย เชื่อถือได้

เพียงคุณมีสินทรัพย์หรือโฉนดที่ดิน ต้องการเงินด่วน
ปรึกษาเราได้ที่ โทร. 087-441-8888, 098-885-0479

Line@ : https://lin.ee/tIpO804


#AssawinAsset #รับจำนอง #รับขายฝาก #ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ #สินเชื่อดอกเบี้ยถูก
#อัศวินแอทเสทสินเชื่อเคียงข้างนักลงทุน