ผ่อนดาวน์คอนโด

บทความเกี่ยวกับอสังหา

ไม่ใช่แค่ซื้อรถเท่านั้นที่ต้องมีเงินดาวน์ แต่การซื้อคอนโดก็ต้องมีการดาวน์เหมือนกัน ว่าแต่ดาวน์ยังไง? จ่ายให้ใคร? จ่ายไปทำไม? มาหาคำตอบกันในบทความนี้

.

โดยทั่วไปนั้นหลักการของการดาวน์ก็คือ การที่ผู้ซื้อจ่ายเงินก้อนหนึ่งก่อนแล้วจึงทำการขอผ่อนจ่ายในส่วนที่เหลือ ซึ่งเจ้าเงินก้อนแรกที่เราจ่ายไปก่อนนี้แหละที่เขาเรียกว่าเงินดาวน์

.

ทว่า การดาวน์สำหรับคอนโดนั้นก็จะแตกต่างกับการดาวน์รถอยู่นิดหน่อย อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นมากกว่าอีกด้วย เนื่องจากการดาวน์คอนโดนั้นไม่ว่าคุณจะตัดสินใจซื้อคอนโดแบบเงินสดหรือเงินผ่อน หากเป็นการซื้อในช่วง Pre-sale ที่โครงการยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จนั้น ก็จะต้องมีการดาวน์เกิดขึ้นอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้

.

และส่วนสำคัญที่ต้องรู้เอาไว้เลยก็คือการดาวน์นี้ถือเป็นคนละส่วนกับการผ่อนคอนโดอย่างสิ้นเชิง และผู้ซื้อจะต้องทำการจ่ายเงินดาวน์ให้กับทางโครงการโดยตรง ไม่ใช่กับธนาคาร 

.

โดยรูปแบบของการดาวน์นั้น ก็จะมีทั้งการจ่ายดาวน์แบบเป็นก้อนเพียงครั้งเดียว การผ่อนแบบเท่าๆ กันทุกงวด และการผ่อนแบบมีงวดบอลลูน ซึ่งจำนวนเงินขั้นต่ำของเงินดาวน์รวมก็จะอยู่ที่ราวๆ 5-10% ของราคาคอนโด

.

สำหรับการจ่ายดาวน์แบบเป็นก้อนเพียงครั้งเดียวนั้นเราแทบจะไม่ค่อยพบเท่าไหร่ นอกเสียจากเป็นกรณีของการซื้อขายคอนโดมือสอง หรือคอนโดที่สร้างเสร็จแล้วเท่านั้น แต่สำหรับการผ่อนดาวน์แบบเท่ากันทุกงวดนี้จะสามารถพบได้ทั่วไปเกือบทุกคอนโดที่อยู่ในระหว่างการ Pre-sale

.

โดยหลักการก็คือทางโครงการจะมีการคิดจำนวนเงินดาวน์ทั้งหมดที่ผู้ซื้อต้องจ่าย จากนั้นจึงทำการหารด้วยจำนวนงวด เพื่อให้ได้ค่าผ่อนของแต่ละงวด ซึ่งทั้งค่างวดและระยะเวลาการผ่อนดาวน์ของแต่ละคนนี้ก็จะแตกต่างกัน แม้ว่าจะตัดสินใจซื้อโครงการเดียวกันในราคาที่เท่ากันก็ตาม โดยสาเหตุนั้นก็มาจากช่วงเวลาที่เราซื้อนั่นเอง 

.

ตัวอย่างเช่น คอนโดราคา 3,000,000 บาท โครงการกำหนดให้มีการดาวน์ 10% คิดเป็นเงิน 300,000 บาท หากเราตัดสินซื้อในช่วงที่โครงการพึ่งเริ่มก่อสร้างหมาดๆ และต้องใช้เวลาในการก่อสร้างอีก 30 เดือน ก็จะทำให้เราต้องผ่อนดาวน์อยู่ที่งวดละ 10,000 บาท/เดือน เป็นจำนวน 30 งวด 

.

แต่หากเป็นกรณีที่เราตัดสินซื้อในช่วงที่โครงการก่อสร้างไปแล้วระยะหนึ่ง จนเหลืออีกเพียง 15 เดือน ก่อนจะแล้วเสร็จ ก็จะทำให้เราต้องผ่อนดาวน์อยู่ที่งวดละ 20,000 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 15 งวด เพื่อให้รวมแล้วได้จำนวนเงินดาวน์ทั้งหมดเท่ากับ 300,000 บาท เหมือนกับในกรณีแรก

.

แต่ปัญหาของการทำแบบนี้ก็คือบางครั้งก็ทำให้ระบบการจัดเก็บของโครงการยุ่งยาก คนนี้จ่าย 10,000 บาท/เดือน อีกคนหนึ่งจ่าย 12,000 บาท/เดือน แต่ละคนจ่ายไม่เท่ากัน จนทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย จึงได้เกิดการผ่อนดาวน์อีกรูปแบบหนึ่งขึ้นมาซึ่งก็คือ การผ่อนดาวน์แบบมีงวดบอลลูน

.

งวดบอลลูนก็คืองวดที่เราต้องจ่ายเงินมากกว่าปกติ จากเดิมที่เคยจ่ายเดือนละเท่าๆ กันทุกเดือน ก็จะมีบางงวดที่เราต้องจ่ายมากพิเศษ เพื่อให้ลดปัญหาเรื่องช่วงเวลาในการซื้อของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน

.

ตัวอย่างเช่น แทนที่เราจะผ่อนดาวน์เดือนละ 20,000 บาท เป็นเวลา 15 เดือน ก็จะเปลี่ยนเป็นผ่อนเดือนละ 10,000 บาททุกเดือนเหมือนกันกับในกรณีแรกที่เราซื้อคอนโดตอนพึ่งเริ่มสร้างใหม่ๆ จนกระทั่งถึงงวดบอลลูนที่เราต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยกับจำนวนเงินที่หายไป 

.

อย่างเช่นในกรณีนี้ เราอาจมีการผ่อนงวดปกติเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 14 เดือน รวมเป็นเงิน 140,000 บาท จากนั้น พอถึงงวดที่ 15 ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายก่อนที่โครงการจะแล้วเสร็จ ก็จะกลายเป็นงวดบอลลูนที่เราต้องจ่ายครั้งเดียว 160,000 บาท เพื่อให้ครบจำนวนเงิน 300,000 บาท เหมือนกับผู้ซื้อรายอื่นๆ 

.

อย่างไรก็ตาม งวดบอลลูนนี้อาจมีได้มากกว่า 1 งวด ขึ้นอยู่สัญญาที่โครงการกำหนด ซึ่งก็เป็นการแบ่งเบายอดจ่ายใน 1 ครั้งให้ลดลงนั่นเอง ทว่า ผู้ซื้อนั้นก็ต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับรายละเอียดการผ่อนดาวน์ในแต่ละงวดให้ดี เพื่อเตรียมเงินก้อนให้พร้อมสำหรับการจ่ายงวดบอลลูนนี้

.

ถึงแม้ว่าการจ่ายเงินดาวน์จะเป็นการจ่ายให้กับโครงการโดยตรงอย่างที่กล่าวไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเงินจำนวนนี้จะหายไปไหน เพราะเงินทั้งหมดที่เราทำการดาวน์ไปนี้ก็จะถูกนำไปหักออกจากราคาเต็มตอนที่เราทำการซื้อจริงหรือทำการยื่นกู้กับธนาคารนั่นเอง 

.

สำหรับคนที่ตั้งใจจะซื้อแบบเงินสดอยู่แล้วก็อาจไม่มีผลเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ต้องการผ่อนกับธนาคารต่อนั้นก็ถือว่าการดาวน์นี้มีส่วนช่วยได้มากทีเดียว ทั้งลดวงเงินต้นในการกู้ ลดยอดผ่อนต่อเดือน หรือแม้แต่ช่วยแก้ปัญหาที่ธนาคารไม่สามารถอนุมัติวงเงิน 100% ให้กับผู้ซื้อบางรายได้อีกด้วย

.

จากที่ต้องยื่นกู้กับธนาคาร 3,000,000 บาทแบบเต็มๆ ก็ลดเหลือเพียง 2,700,000 บาท ซึ่งก็ช่วยลดภาระในการผ่อนได้มากทีเดียว และที่สำคัญการผ่อนดาวน์กับโครงการยังเป็นการผ่อนที่ไม่มีดอกเบี้ยอีกต่างหาก 

.

เรียกได้ว่าผ่อนเท่าไหร่ก็ถูกนำไปหักออกจากราคาซื้อขายเท่านั้น ซึ่งถ้าหากเป็นการผ่อนกับธนาคารแล้วถ้าจะผ่อนให้ได้จำนวนเดียวกันนี้อาจต้องใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียว เนื่องจากค่างวดในแต่ละเดือนก็จะต้องถูกหักออกเป็นดอกเบี้ยถึงเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว

.

อย่างไรก็ตามการผ่อนดาวน์นี้ก็ถือว่ามีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน ทั้งในกรณีที่กู้ไม่ผ่าน หรือการก่อสร้างไม่เป็นไปอย่างที่ตกลงกันไว้ในสัญญา ถึงแม้ว่าตามกฎหมายจะกำหนดให้ทางโครงการไม่มีสิทธิ์ยึดเงินดาวน์ แต่โครงการก็มักตะใช้วิธีการจ่ายเงินคืนที่ล่าช้าและยุ่งยากจนสร้างความลำบากให้ผู้ซื้อ ซึ่งเราควรศึกษารายละเอียด เงื่อนไขและขั้นตอนในสัญญาให้ดีก่อนตัดสินใจจ่ายเงินดาวน์ให้กับทางโครงการ

 

------------------------

 

ติดตามเรื่องราวอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอสังหาฯ
ที่อ่านง่าย ได้ความรู้ พร้อมบริการซื้อ ขาย จำนอง ที่ดิน
อสังหาริมทรัพย์ บ้านและคอนโด ได้ที่ : https://assawinasset.com/

อัศวินแอสเสท : ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ด้านอสังหาฯ ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในประเทศไทย เพียง 0.75% ต่อเดือน

ค่าดำเนินการต่ำ ไม่ผ่านหน้านาย อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สัญญาสูงสุด 10 ปี!! ไม่เช็คเครดิต ไม่เช็คการเงิน ไม่ต้องค้ำประกัน ปลอดภัย เชื่อถือได้

เพียงคุณมีสินทรัพย์หรือโฉนดที่ดิน ต้องการเงินด่วน
ปรึกษาเราได้ที่ โทร. 087-441-8888, 098-885-0479

Line@ : https://lin.ee/tIpO804


#AssawinAsset #รับจำนอง #รับขายฝาก #ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ #สินเชื่อดอกเบี้ยถูก
#อัศวินแอทเสทสินเชื่อเคียงข้างนักลงทุน