บทความเกี่ยวกับอสังหา
คนไทยส่วนหนึ่งนั้นคุ้นเคยกับการช้อปออนไลน์มาสักพักหนึ่งแล้ว และยิ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมาก็ยิ่งกลายเป็นโอกาสที่ทำให้คนไทยอีกส่วนหนึ่งได้ลองสั่งสินค้าออนไลน์เป็นครั้งแรก แต่ใครจะไปคิดว่าเราก็สามารถซื้อบ้านหรือคอนโดผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน !
จริงๆ แล้วตลาด E-commerce หรือการช้อปออนไลน์ในบ้านเรานั้นมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด ทว่าในปี 2020 ที่ผ่านมาโดยเฉพาะในช่วงหลังโควิดนั้น กลับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาด E-commerce เติบโตขึ้นถึง 35% จากมูลค่ารวมของตลาดในปีที่แล้ว 163,300 ล้านบาท ก็กระโดดขึ้นเป็น 220,000 ล้านบาทในปี 2020
นอกจากนี้ยังพบอีกด้วยว่า คนไทยกำลังติดใจการช้อปออนไลน์และการสั่งอาหาร delivery มากขึ้น เพราะแม้แต่คนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีโอกาสได้ใช้บริการมาก่อน เมื่องได้ลองใช้แล้วกว่า 80% ก็ตัดสินใจที่จะกลับมาใช้บริการอีกแม้สถานการณ์หลังจากนี้จะกลับมาปกติแล้วก็ตาม
แม้ว่าก่อนหน้านี้วงการ E-commerce จะดูเป็นคนละเรื่องกับวงการอสังหาฯ แต่รู้หรือไม่ว่า? ในช่วง Covid-19 ที่ผ่านมา ตัวเลขสถิติของ Krungthai COMPASS ที่ได้ทำการรวบรวมไว้ได้บอกกับเราว่ามีจำนวนคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของโครงการและ developer เจ้าต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นถึง 40%
จากค่าเฉลี่ยการเข้าชมเว็บไซต์ที่แต่เดิมเคยอยู่ที่ 8,400 ครั้ง/เว็บไซต์/วัน ในช่วงเดือน ม.ค. 2020 ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาด ก็เพิ่มขึ้นเป็น 11,700 ครั้ง/เว็บไซต์/วัน ในเดือน พ.ค. 2020
และกว่า 50-60% ของจำนวนคนที่คลิกเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นล้วนมาจากการเสิร์ชผ่าน keyword ต่างๆ เช่น “คอนโด + ชื่อย่าน” หรือ “คอนโด + ชื่อแบรนด์” ในขณะที่อีก 5-10% ที่เหลือมาจากการให้ข้อมูลของเว็บไซต์หรือ Influencer เจ้าต่างๆ
แม้ว่าก่อนหน้านี้ developer เจ้าต่างๆ จะมีการพัฒนาเว็บไซต์และระบบ online booking ต่างๆ อยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นคนละเรื่องกับเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นจาก Covid-19 ในการซื้อ-ขาย และเยี่ยมชมโครงการผ่านทางช่องทางออนไลน์แบบจริงจัง
ลำพังเพียงแค่ให้คนยอมนำเงินมาใช้กับการซื้ออสังหาฯ ในช่วงโควิดที่ว่ายากแล้ว แต่เหล่าบรรดาผู้ประกอบการในวงการอสังหาฯ ยังต้องเจอโจทย์ที่ท้าทายขึ้นไปอีกเมื่อคนไม่กล้าที่จะเดินทางออกมาเยี่ยมชมโครงการในช่วงที่กรุงเทพฯ มีการล็อกดาวน์
จากพฤติกรรมเดิมของลูกค้าที่อาจเห็นโฆษณาจากที่ใดที่หนึ่ง แล้วตัดสินทำการ walk-in เยี่ยมชมโครงการ ก่อนทำการจองและทำสัญญาซื้อขายที่สำนักงานขาย ทว่า วิธีการนี้กลับไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป
ทำให้นอกเหนือจากโปรโมชั่นที่ต่างทยอยขนกันมาเพื่อดึงดูดเงินจากในกระเป๋าของผู้ซื้อแล้ว เหล่า developer ยังค้นหาวิธีการและกลยุทธ์ใหม่ๆ ในการขายอสังหาฯ ผ่านช่องทางออนไลน์แบบเต็มตัว
ทั้งการทำเทคโนโลยี VR ต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับการเข้าชมห้องตัวอย่างและโครงการผ่านทางช่องทางออนไลน์ ที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถพูดคุยกับพนักงานขายพร้อมกับได้เห็นโครงการจริง ห้องจริง และสภาพแวลล้อมโดยรอบผ่านโปรแกรม Virtual Visits 360 องศา เพื่อประกอบการตัดสินใจเสมือนได้เดินทางมาเยี่ยมชมโครงการจริงๆ
และการงัดเอาช่องทางและ Social Media ที่ตัวเองมีทั้งหมดมาใช้กับการติดต่อสื่อสารและปิดการขายกับกลุ่มลูกค้า อย่างการใช้ Line Official Account และ Facebook Live ที่แต่ก่อนคนอาจคิดว่ามีเพียงแม่ค้าขายเสื้อผ้าที่ใช้เท่านั้น ทว่า Covid-19 ก็ทำให้เราเห็นมาแล้วว่ามันก็ใช้ขายอสังหาฯ ได้เช่นกัน
โดยในปี 2019 ที่ผ่านมานั้น “พฤกษา” เองก็สามารถทำยอดขายที่อยู่อาศัยจากช่องทางออนไลน์ ได้มากถึง 20,605 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58% ของยอดขายรวม สูงกว่ายอดขายในช่องทางออฟไลน์สูงถึง 1.4 เท่า เลยทีเดียว
และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือตัวเลขนี้ยังถือเป็นช่วงที่ developer เจ้าต่างๆ และคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ผ่านช่องทางออนไลน์มากเท่ากับในช่วงปี 2020 นี้ด้วยซ้ำ
และนี่ก็อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักของ developer เจ้าต่างๆ ในการปิดการขายของปี 2021 ที่จะถึงนี้ นี้ก็เป็นได้ !
------------------------
ติดตามเรื่องราวอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอสังหาฯ
ที่อ่านง่าย ได้ความรู้ พร้อมบริการซื้อ ขาย จำนอง ที่ดิน
อสังหาริมทรัพย์ บ้านและคอนโด ได้ที่ : https://assawinasset.com/
อัศวินแอสเสท : ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ด้านอสังหาฯ ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในประเทศไทย เพียง 0.75% ต่อเดือน
ค่าดำเนินการต่ำ ไม่ผ่านหน้านาย อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สัญญาสูงสุด 10 ปี!! ไม่เช็คเครดิต ไม่เช็คการเงิน ไม่ต้องค้ำประกัน ปลอดภัย เชื่อถือได้
เพียงคุณมีสินทรัพย์หรือโฉนดที่ดิน ต้องการเงินด่วน
ปรึกษาเราได้ที่ โทร. 087-441-8888, 098-885-0479
Line@ : https://lin.ee/tIpO804
#AssawinAsset #รับจำนอง #รับขายฝาก #ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ #สินเชื่อดอกเบี้ยถูก
#อัศวินแอทเสทสินเชื่อเคียงข้างนักลงทุน