“เช่าซื้อ” รูปแบบใหม่ของการซื้อ-ขาย อสังหาฯ

บทความเกี่ยวกับอสังหา

ในยุคเศรษฐกิจที่ผู้ขายอสังหาฯ ก็หาคนซื้อยากเหลือเกิน ส่วนคนซื้อก็อยากจะกู้ธนาคารมาซื้อ แต่ธนาคารก็ต้องอนุมัติอย่างระมัดระวัง จึงได้เกิดเป็นขายซื้อ-ขาย อสังหาฯ ในอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่าเช่าซื้อ

 

จริงๆ การเช่าซื้อนั้นมีมานานแล้วและยังมีกฎหมายรับรองอย่างถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.572 ที่ได้อธิบายได้ว่า การเช่าซื้อนั้น ก็คือการที่เจ้าของเอาทรัพย์สินออกมาให้เช่าและให้คำสัญญาว่าเมื่อผู้เช่าทำการจ่ายเงินครบตามที่สัญญาก็จะทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้

 

หากจะพูดให้เห็นภาพมากขึ้นก็ตัวอย่างเช่น นาย A เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งและได้ทำสัญญาเช่าซื้อกับนาย B เอาไว้ ระบุว่าให้นาย B จ่ายค่าเช่าเดือนละ 20,000 เป็นเวลา 10 ปี และเมื่อครบกำหนดตามสัญญาก็จะทำการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมแห่งนี้ให้กับนาย B

 

วิธีการนี้นอกจากนาย B จะไม่ต้องจ่ายค่าเช่าในแต่ละเดือนไปแบบฟรีๆ แล้ว ก็ยังสามารถเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมที่ตัวเองพักอาศัยอยู่ในอนาคตอีกด้วย

และสาเหตุที่เราบอกว่าการเช่าซื้ออาจเป็นรูปแบบการซื้อ-ขาย อสังหาฯ ที่ถูกใจคนไม่มีเครดิตนั้น ก็เพราะว่าการทำธุรกรรมนี้ไม่ต้องทำผ่านธนาคารนั่นเอง

 

แต่เป็นการเช่าซื้อระหว่างเจ้าของทรัพย์สินและผู้เช่าซึ่งทำสัญญาเช่าซื้อร่วมกัน ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายราย แต่ไม่มีเครดิตที่ดีพอจนยื่นกู้กับธนาคารได้ เช่น เหล่าบรรดาฟรีแลนซ์ พ่อค้า แม่ค้า สามารถเป็นเจ้าของอสังหาฯ ได้เหมือนคนทั่วไป

 

ส่วนผู้ขายเองก็สามารถใช้ช่องทางนี้ในการหาผู้ซื้อรายใหม่ๆ ในช่วงที่การซื้อ-ขาย อสังหาฯ ซบเซา

 

แต่ก็ใช่ว่าวิธีการนี้จะดูดีไปเสียหมดหรอกนะ เพราะถึงจะบอกว่าไม่ต้องจ่ายค่าเช่าฟรีๆ เหมือนกับการเช่าทั่วไปแถมยังมีโอกาสเป็นเจ้าของในอนาคต แต่ค่าเช่าที่คุณต้องจ่ายในสัญญาเช่าซื้อนั้นเรียกได้ว่าแพงกว่าค่าเช่าปกติมากทีเดียว

 

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าอสังหาฯ ทุกประเภทนั้นถือเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา ดังนั้นแล้วการทำสัญญาเช่าซื้อในวันนี้เพื่อให้สิ้นสุดลงในอีก 10 ปี ข้างหน้า เจ้าของก็ต้องมีการคิดคำนวณกำไรในส่วนนี้เอาไว้

 

และไม่ใช่ว่าซื้อคอนโดมา 2 ล้าน แล้วตั้งใจจะขายที่ราคา 2.5 ล้าน จึงกำหนดสัญญาเช่าซื้อให้ผู้เช่าซื้อทำการจ่ายค่าเช่าซื้อเดือนละ 20,000 บาท เป็นระยะเวลา 10 ปี 

 

ซึ่งถ้าเป็นในลักษณะนี้กว่าจะถึง 10 ปี ที่เจ้าของได้เงินครบ 2.5 ล้านตามที่กำหนดไว้นั้น คอนโดมิเนียมแห่งนี้ก็อาจมีมูลค่ามากกว่านั้นไปหลายเท่าแล้วก็เป็นได้  

 

และเพื่อป้องกันการขาดทุนในส่วนนี้เจ้าของจึงต้องตั้งค่าเช่าที่สูงมากๆ เพื่อให้ตัวเองได้กำไรและคิดว่าราคาที่ตั้งไว้ในวันนี้จะเป็นราคาที่เหมาะสมกับอีก 10 ปี ข้างหน้า ซึ่งก็อาจทำให้ผู้เช่าซื้อที่โดยปกติอาจต้องจ่ายค่าเช่าอาศัยธรรมดาเพียงไม่ถึง 10,000 บาท/เดือน กระโดดเป็นเงินถึงเกือบๆ 30,000 บาท/เดือน ในสัญญาเช่าซื้อ

 

เรียกได้ว่าวิธีการเช่าซื้อนี้ผู้เช่าซื้อก็ต้องยอมรับกับการจ่ายค่างวดที่สูงมากต่อเดือน ในขณะที่เจ้าของหรือผู้ให้เช่าซื้อเองก็ต้องรับได้การกับได้รับเงินเป็นรายเดือนแทนที่จะเป็นเงินก้อนเหมือนกับการขายอสังหาฯ โดยทั่วไป

 

นอกจากนี้อีกข้อหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนทันทีเมื่อไม่มีสถาบันการเงินหรือธนาคารเข้ามาเป็นตัวกลางก็คือความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับทั้งฝั่งของผู้เช่าซื้อและผู้ให้เช่าซื้อ

 

คือโดยปกตินั้นถ้าเป็นการซื้อ-ขายที่มีการยื่นกู้กับธนาคาร เจ้าของหรือผู้ขายก็ได้รับเงินก้อนในทันทีส่วนผู้ซื้อก็ทำการผ่อนจ่ายกับธนาคารจนครบสัญญาโดยเอกสารหลักฐานและระบบระเบียบที่ชัดเจน

 

แต่เมื่อเป็นกรณีของการเช่าซื้อซึ่งเป็นการทำธุรกรรมโดยตรงระหว่างกัน ก็ไม่สามารถการันตีความน่าเชื่อถือของผู้ให้เช่าซื้อได้ และไม่มีการรับรองความสามารถในการจ่ายของผู้เช่าซื้อด้วยเหมือนกัน

 

กล่าวคือ ทางฝั่งผู้เช่าซื้อนั้นก็ต้องคอยระมัดระวังตัวและเก็บหลักฐานเอกสารในการจ่ายเงินของตัวเองไว้ให้ดี เพราะความน่าเชื่อในการผ่อนกับธนาคารนั้นก็ย่อมแตกต่างกับบุคคลทั่วไปอยู่แล้ว และที่สำคัญก็คือการตรวจสอบเอกสารสัญญาในการเช่าซื้อให้ดีก่อนตัดสินใจเพื่อป้องกันการถูกโกง

 

ส่วนในฝั่งของเจ้าของหรือผู้ให้เช่าซื้อนั้นก็ต้องเจอความเสี่ยงในเรื่องเครดิตของผู้เช่าซื้อที่โดยพื้นฐานแล้วไม่ได้เป็นผู้ที่ผ่านเกณฑ์การกู้ของธนาคาร ซึ่งแน่นอนว่าก็ย่อมมีความเสี่ยงกว่าบุคคลทั่วไปแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดการจากเช่าซื้อเหล่านี้จึงได้เกิดบริษัทตัวกลางในการทำธุรกรรมประเภทเช่าซื้ออสังหาฯ มากมาย และหลายแห่งก็เป็นการดำเนินการโดยบริษัท Developer เองเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้กับบริษัท

 

จริงๆ แล้วทุกรูปแบบของการทำธุรกรรมนั้นต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เช่นเดียวกันกับการเช่าซื้อนี้ ทว่า ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากการทำธุรกรรมเหล่านี้มากที่สุดก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ศึกษาและเข้าใจรายละเอียดมากที่สุด

 

ดังนั้นแล้วสำหรับใครที่สนใจรูปแบบการเช่าซื้อนี้ทั้งในฝั่งของเจ้าของอสังหาฯ และผู้ต้องการเช่าซื้อ ก็ควรศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ หรือท้ายที่สุดอาจพิจารณาทางเลือกในการใช้บริการบริษัทตัวกลางก็นับเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย

------------------------

ติดตามเรื่องราวอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอสังหาฯ
ที่อ่านง่าย ได้ความรู้ พร้อมบริการซื้อ ขาย จำนอง ที่ดิน
อสังหาริมทรัพย์ บ้านและคอนโด ได้ที่ : https://assawinasset.com/

อัศวินแอสเสท : ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ด้านอสังหาฯ ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในประเทศไทย เพียง 0.75% ต่อเดือน

ค่าดำเนินการต่ำ ไม่ผ่านหน้านาย อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สัญญาสูงสุด 10 ปี!! ไม่เช็คเครดิต ไม่เช็คการเงิน ไม่ต้องค้ำประกัน ปลอดภัย เชื่อถือได้

เพียงคุณมีสินทรัพย์หรือโฉนดที่ดิน ต้องการเงินด่วน
ปรึกษาเราได้ที่ โทร. 087-441-8888, 098-885-0479

Line@ : https://lin.ee/tIpO804


#AssawinAsset #รับจำนอง #รับขายฝาก #ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ #สินเชื่อดอกเบี้ยถูก
#อัศวินแอทเสทสินเชื่อเคียงข้างนักลงทุน