เลือกดอกเบี้ยบ้าน

บทความเกี่ยวกับอสังหา

ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากัน หรือปีแรกดอกต่ำ แล้วค่อยมาเพิ่มในปีหลัง เลือกแบบไหนดี?

 

เรื่องของสินเชื่อบ้านแม้จะเขียนไปแล้วหลายแต่หลายครั้ง แต่ก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ ก็แน่ล่ะสิ ! เพราะนี่ถือเป็นอีกหนึ่งรายได้หลักของธนาคารเชียวนะ 

 

ดังนั้นแล้วธนาคารต่างๆ จึงขยันซุกซ่อนลูกเล่นและกลยุทธ์ต่างๆ ไว้ให้คนทั่วไปหลงใหลไปกับภาพลวงตาที่มาในคราบของโปรโมชั่นแสนถูกดึงดูดใจ และเพราะฉะนั้นผู้กู้อย่างเราๆ ก็จะต้องรู้จักจับให้ได้ไล่ให้ทัน !

 

สำหรับการเลือกดอกเบี้ยบ้านที่ดีนั้น เราไม่ควรพิจารณาแต่เฉพาะอัตราดอกเบี้ยแสนถูกที่ธนาคารมอบให้ เพราะความจริงแล้วเบื้องหลังตัวเลขเหล่านั้นยังมีอะไรให้เราต้องระวังอีกมาก

 

โดยปกติแล้วอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารนำเสนอให้เราในช่วง 3 ปีแรก ตัวเลขหลักๆ ที่เราจะใช้พิจารณากันก็จะเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ซึ่งถ้าตัดสินใจแบบเผินๆ หลายคนก็ต้องเลือกธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ถูกที่สุดแน่นอน

 

แต่ถ้าลองศึกษาข้อมูลเงื่อนไขอย่างละเอียด ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารก็จะไม่ค่อยบอกเรานัก ก็จะพบว่าอัตราดอกเบี้ยที่ถูกนั้นไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะใช้ในการตัดสินใจ

 

เรื่องที่คนส่วนใหญ่เจอกันมากที่สุดก็คือบางธนาคารนั้นแม้จะให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก ถูกที่สุด แต่พ่วงมาด้วยการบังคับทำประกันต่างๆ ซึ่งอาจไม่ได้มีความจำเป็นกับผู้กู้แต่อย่างใด แต่ถ้าหากผู้กู้ปฏิเสธที่จะทำประกันเหล่านั้นแล้ว ก็จะไม่ได้อัตราดอกเบี้ยเดิมที่เสนอมา

 

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าธนาคารเหล่านี้ได้คิดคำนวณรายได้ที่พวกเขาจะสูญเสียไปจากการเสนออัตราดอกเบี้ยนั้นแล้ว และรายได้ที่สูญเสียไปนั้นก็ถูกทดแทนด้วยสัญญาการทำประกันซึ่งส่วนใหญ่แล้วอัตราดอกเบี้ยจะแพงแบบหูฉีกเลยทีเดียว

 

และคราวนี้ก็มาถึงคำถามที่เราเกริ่นไว้ตอนต้น คือหากเกิดกรณีที่หลายธนาคารเสนออัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากัน แต่ดอกเบี้ยในแต่ละปีนั้นแตกต่างกันแล้ว จะทำอย่างไร?

 

ตัวอย่างเช่น ธนาคาร A ให้อัตราดอกเบี้ยตลอด 3 ปี อยู่ที่ 3.5% ในขณะที่ธนาคาร B นั้นให้อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 = 0.5%, ปีที่ 2 = 4.5% และปีที่ 3 = 5.5% ซึ่งเฉลี่ย 3 ปีแล้ว เท่ากับ 3.5% เหมือนกับธนาคาร A

 

แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของทั้ง 2 ธนาคารจะเท่ากัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจำนวนดอกเบี้ยที่เราต้องเสียจริงๆ รวมตลอดทั้ง 3 ปีนั้นจะเท่ากัน

 

และถ้าหากเราสมมติให้ทั้ง 2 ธนาคารมีอัตราการผ่อนชำระรวมดอกเบี้ยอยู่ที่ 7,000 บาท/เดือน ก็จะพบว่าการเลือกธนาคาร A นั้น รวม 3 ปี เราต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารทั้งสิ้น 97,222.51 บาท ในขณะที่ของธนาคาร B นั้น จะอยู่ที่เพียง 92,686.51 บาท

 

หรือพูดอย่างง่ายๆ ก็คือการเลือกอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร B นั้นคุ้มกว่า เพราะตลอด 3 ปี เราจ่ายดอกเบี้ยน้อยกว่า และสามารถลดเงินต้นได้มากกว่า

 

และที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าดอกเบี้ยในปีที่ 1 ของธนาคาร B ที่อยู่ในอัตราเพียง 0.5% นั้น ทำให้เราสามารถชำระเงินต้นได้มากกว่าในปีแรก และมีผลต่อการลดต้นลดดอกในปีถัดๆ มานั่นเอง

 

ถ้าอ่านถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจคนอาจบอกว่า โอเค! ถ้างั้นพรุ่งนี้จะตัดสินใจเลือกธนาคาร B ทันที ซึ่งก็คงไม่ผิด

 

แต่ในความเป็นจริงนั้นเราอาจเจอในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 แสนถูกแบบในตัวอย่างนี้ ก่อนที่จะถูกเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวในปีถัดๆ มา ซึ่งไม่ได้มีผลเฉพาะแค่เพียงอัตราดอกเบี้ยที่แพงขึ้นแต่ยังทำให้ค่างวดแพงขึ้นด้วย

 

จากที่เคยจ่ายเดือนละ 7,000 ในปีที่ 1 อาจขยับกลายเป็นสูงกว่า 10,000 บาทในปีต่อๆ มา ซึ่งก็จะส่งให้การวางแผนทางการเงินของหลายคนเสียหายได้มากทีเดียว

 

เห็นไหมว่าการเลือกอัตราดอกเบี้ยนี้มีรายละเอียดที่ซับซ้อนขนาดไหน? ถ้าไม่อยากเสียรู้และเสียเงินให้ธนาคารโดยไม่จำเป็นก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดีล่ะ !

------------------------

ติดตามเรื่องราวอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอสังหาฯ
ที่อ่านง่าย ได้ความรู้ พร้อมบริการซื้อ ขาย จำนอง ที่ดิน
อสังหาริมทรัพย์ บ้านและคอนโด ได้ที่ : https://assawinasset.com/

อัศวินแอสเสท : ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ด้านอสังหาฯ ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในประเทศไทย เพียง 0.75% ต่อเดือน

ค่าดำเนินการต่ำ ไม่ผ่านหน้านาย อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สัญญาสูงสุด 10 ปี!! ไม่เช็คเครดิต ไม่เช็คการเงิน ไม่ต้องค้ำประกัน ปลอดภัย เชื่อถือได้

เพียงคุณมีสินทรัพย์หรือโฉนดที่ดิน ต้องการเงินด่วน
ปรึกษาเราได้ที่ โทร. 087-441-8888, 098-885-0479

Line@ : https://lin.ee/tIpO804


#AssawinAsset #รับจำนอง #รับขายฝาก #ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ #สินเชื่อดอกเบี้ยถูก
#อัศวินแอทเสทสินเชื่อเคียงข้างนักลงทุน