เทรนด์อสังหามาแรงรับปีกระต่าย

บทความเกี่ยวกับอสังหา

 

ปีใหม่ทีไรก็มักจะมีการถามหาเรื่องใหม่ๆ เทรนด์ใหม่ๆ กันทุกปีและทุกวงการ วงการอสังหาฯ เองก็เช่นกัน 

 

ศูนย์วิจัยของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ หลายรายก็จะออกมาให้ความเห็นถึงเทรนด์อสังหาฯ ที่น่าจะมาแน่ๆ ในปีนี้ 

 

ซึ่งเทรนด์น่าสนใจที่โพสต์นี้ยกมาเป็นของ LWS หรือบริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้ชูประเด็นว่า เทรนด์อสังหาฯ ปีนี้ต้องมีเรื่องของ พลังงาน-สิ่งแวดล้อม-สุขภาพ เป็นตัวชูโรง

 

 

โดยตัวแทนของ LWS กล่าวว่า สิ่งที่ต้องโฟกัสสำหรับเทรนด์ที่จะมาถึง คือ

 

 

1.ด้านพลังงาน 

ผู้ประกอบการมีแนวโน้มคำนึงถึงการประหยัดพลังงานมากขึ้น เริ่มตั้งแต่การออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางการวางผังอาคารที่เรียกว่า Passive Design และการประหยัดพลังงานในรูปแบบของการใช้อุปกรณ์ หรือ Active Design เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าภายในบ้าน

 

รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน การติดตั้งระบบระบายความร้อนบนหลังคา ร่วมกับการติดฉนวนกันความร้อน การติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การติดตั้ง Energy Monitoring สำหรับเช็กการใช้พลังงานภายในบ้าน เป็นต้น

 

อุปกรณ์เหล่านี้กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของที่อยู่อาศัยในปี 2566 และในอนาคต

 

 

2. ด้านสิ่งแวดล้อม 

จากงานวิจัยของ Baramizi Lab พบว่าผู้บริโภคชาวไทยชอบอยู่กับธรรมชาติ 85.2% ทำให้การออกแบบที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่สีเขียวสามารถตอบโจทย์ความต้องการผู้ซื้อได้เพิ่มขึ้น

 

นอกจากนี้ คำนึงถึงการเลือกใช้วัสดุที่ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เช่น เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ในการสร้างพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ถนน ทางเท้าในโครงการ รวมไปถึงการพัฒนางานบริการแยกขยะและการจัดเก็บ

 

 

3.ด้านสุขภาพ 

นอกจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงสุขอนามัยที่ดีแล้ว สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการอยู่อาศัย เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ต้องคำนึงถึงสุขอนามัยที่ดีเช่นกัน

 

เช่น งานบริการตกแต่งบ้านแบบ Fit-in จาก 10DK ที่มีแนวคิดการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ลดการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม มีการใช้สารเคลือบและสีแบบสารระเหยต่ำ (Low VOCs) ปลอดภัยต่อผู้พักอาศัย นอกจากนี้ มีการเลือกวัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก ใช้ผลิตภัณฑ์จากชุมชน และไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง การสร้างรายได้ให้ชุมชนโดยใช้ช่างฝีมือชุมชน

 

นอกจากนี้ยังมีการนำตัวชี้วัดด้านต่างๆ ทั้งสิ่งแวดล้อม วัสดุ และปัจจัยที่จะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปีที่วงการอสังหาฯ มีใจให้สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวน่าจะไปได้ดีกับคนรุ่นใหม่ไม่น้อยเลย

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ