ลูกค้าเก่า Come Back? จีนเปิดประเทศแล้ว มีผลต่อวงการอสังหาฯ หรือไม่

บทความเกี่ยวกับอสังหา

 

หลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่มีความรุนแรงกว่า 3 ปี ในที่สุดหลายๆ ประเทศก็เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมีความหวังว่าเศรษฐกิจทั่วโลกที่หยุดชะงักลงจะมีโอกาสฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง แวดวงอสังหาฯ ก็เช่นกัน ที่ผ่านมาลูกค้าชาวจีนถือเป็นลูกค้าต่างชาติที่ให้ความสนใจกับการซื้ออสังหาฯ ในประเทศไทยจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มชาวต่างชาติทั้งหมด ทั้งเพื่อเป็นที่พักผ่อน อยู่อาศัย และเพื่อการลงทุน

 

ดังนั้นหลังจากรัฐบาลจีนมีการประกาศว่าประเทศจีนจะเปิดประเทศอีกครั้งในวันที่ 8 มกราคม 2566 ทำให้กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ มีความหวังว่าจะได้ลูกค้าต่างชาติจำนวนมากกลับมาอีกครั้ง ซึ่งความคาดหวังนี้จะเป็นได้หรือไม่ เราอาจต้องดูจากสถิติและข้อบ่งชี้อื่นๆ ซึ่ง REIC sหรือ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. ออกมาให้ข้อมูลผ่าย ดร.วิชัย วิรัตกพันธุ์ว่า เป็นไปได้ แต่อาจไม่ใช่ในทันที

 

โดยจากสถิติ 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน 2565) พบว่า “ลูกค้าจีน” มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด 3,562 หน่วย คิดเป็น 48.9% ของหน่วยโอนทั่วประเทศ มีท็อป 4 สัญชาติ ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 420 หน่วย คิดเป็น 5.8%, สหรัฐอเมริกา 375 หน่วย 5.1%, อังกฤษ 267 หน่วย 3.7% และเยอรมนี 231 หน่วย 3.2%  

 

ในด้านมูลค่าโอน 9 เดือนแรก พบว่า ลูกค้าจีนรับโอนมูลค่าสูงสุด 17,943 ล้านบาท สัดส่วน 48.5% ของมูลค่าทั้งหมด รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา 1,611 ล้านบาท 4.4%, ฝรั่งเศส 1,431 ล้านบาท 3.9%, รัสเซีย 1,361 ล้านบาท 3.7% และสหภาพพม่า 1,342 ล้านบาท คิดเป็น 3.6% 

 

ทั้งนี้ สถิติ 9 เดือนแรก มีข้อสังเกตว่า ลูกค้าจีนมีจำนวน 3,562 คน สัดส่วน 48.9% มูลค่า 17,943 ล้านบาท คิดเป็น 48.5% ของชาวต่างชาติที่โอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด  

 

ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า ลูกค้าจีนมีการโอนลดลงเหลือไม่เกิน 50% เทียบกับปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วนการโอน 55-60% ซึ่งคาดว่ารับผลกระทบจากนโยบายซีโร่โควิดในประเทศจีนในช่วงที่ผ่านมา 

 

ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้รับโอนกรรมสิทธิ์จากรัสเซีย ยุโรป สหรัฐ เริ่มมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน รวมทั้งลูกค้าจากกลุ่มอาเซียนแม้จะมีหน่วยและมูลค่าการซื้อไม่มากนัก แต่มีสัดส่วนการโอนปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะ “เมียนมา กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย” 

 

ดังนั้น แนวโน้มจีนเปิดประเทศ 8 มกราคม 2566 น่าจะช่วยให้ตลาดอาคารชุดไทยได้รับอานิสงส์จากกำลังซื้อลูกค้าต่างชาติให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้งหนึ่ง แต่อาจต้องเป็นช่วงครึ่งปีหลังนั่นเอง

 

ข้อมูลจาก : ประชาชาติธุรกิจ