เมื่อกลุ่มทุนจีนหายไป อนาคตอสังหาฯ จะเป็นอย่างไร?

บทความเกี่ยวกับอสังหา

 

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของประเด็นปลดล็อกให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินและอสังหาฯ ในประเทศ ตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา วันนี้ Assawin Asset จึงอยากชวนทุกคนมานั่งไทม์แมชชีนไปค้นหาคำตอบในโลกแห่งอนาคต จากคำถามที่ว่าหากวันหนึ่งกลุ่มทุนต่างชาติเหล่านี้หายไป วงการอสังหาฯ ของบ้านเราจะเป็นอย่างไร?

 

แม้ในตอนเริ่มต้นจะเราพูดกันแบบรวมๆ ถึง “กลุ่มทุนต่างชาติ” แต่ว่าการตามตรงแล้วกลุ่มทุนต่างชาติที่ว่าจะเจาะจงหมายถึง “กลุ่มทุนจีน” ก็คงไม่ผิดนัก

 

เพราะนับตั้งแต่ที่จีนเริ่มดำเนินนโยบายการค้า China Plus One ที่เข้ามารุกคืบการลงทุนในเขตภูมิภาคอาเซียน เม็ดเงินการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานจากรัฐบาลโดยตรงก็หลั่งไหลสู่ประเทศเพื่อนบ้านเราไม่ขาดสายโดยเฉพาะในเมียนมา กัมพูชา และ สปป.ลาว

 

และยังไม่รวมถึงนโยบายของรัฐบาลจีนที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการออกมาลงทุนต่างประเทศตามเส้นทางเชื่อมโยงการค้าใหม่ของจีน (One Belt, One Road หรือเส้นทางสายไหมใหม่ในศตวรรษที่ 21) ซึ่งส่งผลให้มีกลุ่มทุนจีนหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก  

 

โดยเฉพาะที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนในย่านห้วยขวางหรือเจ้าของฉายา “เยาวราช 2” ที่กลับมาคึกคักและคลาคล่ำด้วยร้านรวงที่แปะป้ายภาษาจีนทันทีภายหลังการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวจีนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

 

ต่อประเด็นคำถามที่ว่า “เมื่อกลุ่มทุนจีนหายไป อนาคตอสังหาฯ ในบ้านเราจะเป็นอย่างไร?” ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของประเทศไทยนั้นจะห่างไกลจากเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง 

 

ทว่า เราก็สามารถหาคำตอบของคำถามนี้ได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “สีหนุวิลล์” เมืองชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองตากอากาศ และจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

 

แต่นับตั้งแต่นโยบายของรัฐบาลกัมพูชาที่มีการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้อย่างเสรี โดยเฉพาะกับกลุ่มทุนจากประเทศจีน สีหนุวิลล์ ก็เริ่มพัฒนาขึ้นจนกลายเป็นเมืองใหญ่ที่มีโครงการขนาดยักษ์เกิดขึ้นพร้อมกับเงินทุนจีนที่หลั่งไหลเข้ามามหาศาล ทั้งคอนโดฯ โรงแรม กาสิโน ร้านอาหาร และศูนย์การค้า ผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก

 

กับความหวังของกัมพูชาเองที่มุ่งหมายจะให้สีหนุวิลล์กลายเป็น “มาเก๊าแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เช่นเดียวกับชาวจีนที่หวังกอบโกยก็หลั่งไหลเข้ามาในสีหนุวิลล์หลายแสนคนต่อปี

 

โดยความเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม ปี 2019 ที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศให้ธุรกิจกาสิโนออนไลน์ทั่วประเทศเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งก็เป็นผลมาจากแรงกดดันของรัฐบาลจีนเองที่ต้องการปราบปรามกลุ่มแก๊งอาชญากรจีนที่ใช้ธุรกิจนี้เป็นเครื่องมือหลอกลวงผู้คนและดูดเงินไหลเวียนเป็นจำนวนมหาศาล

 

สีหนุวิลล์ซึ่งเติบโตได้เพราะธุรกิจกาสิโนจึงแทบจะหยุดชะงักลงทันที ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ตามมาให้อีกไม่กี่เดือนให้หลัง จนทำให้กลุ่มทุนจีนจำนวนมากม้วนเสื้อพร้อมเงินทุนเดินทางกลับประเทศและทิ้งให้สีหนุวิลล์กลายเป็นเมืองร้างที่เต็มไปด้วยอาคารซึ่งยังก่อสร้างไม่เสร็จมากมาย

 

โดยเว็บไซต์นิกเคอิของญี่ปุ่น รายงานว่าเวลานี้ สีหนุวิลล์มีอาคารที่สร้างไม่เสร็จจำนวนมากถึง 1,155 แห่ง เช่นเดียวกับการก่อสร้างถนน ทางเท้า ระบบระบายน้ำใหม่ และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของเมืองก็ยุติลงทันที

 

จากเมืองที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นดั่งความหวังของทั้งกัมพูชาและกลุ่มทุนจีนกลับกลายเป็นเพียงเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารร้างที่จะทุบทิ้งหรือสร้างขึ้นใหม่ก็ไม่สามารถทำได้

 

และการเติบโตและซบเซาลงของสีหนุวิลล์นี้เองที่เป็นดั่งภาพสะท้อนปัญหาของประเทศกำลังพัฒนาซึ่งพึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติมากจนเกินไป และอาจเป็นคำตอบหนึ่งของคำถามที่ว่าเมื่อกลุ่มทุนจีนหายไป จะเกิดอะไรขึ้น?