บทความเกี่ยวกับอสังหา
วงการอสังหาฯ ผ่านครึ่งปีแรกของปี 2566 มาพร้อมกับการเริ่มต้นใหม่ของ Q3/2566 ที่เป็นช่วงเริ่มต้นของรัฐบาลใหม่ หลังผ่านการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งทำให้การเมืองกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบทั้งในด้านดีและด้านลบต่อวงการอสังหาฯ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในวงการอสังหาฯ หลายท่านต่างออกมาให้ความเห็น และชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่รัฐบาลใหม่ต้องรับมือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาฯ
โดย นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) กล่าวถึงช่วงครึ่งปีหลังว่า จะมีความชัดเจนในการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ตามช่วงเวลาคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นภายในไตรมาส 3/66 ทำให้มีความเชื่อมั่นเกิดขึ้นในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือ ความอ่อนแรงของกำลังซื้อในภาพรวม และรายได้กลุ่มรากหญ้า ที่มีภาระหนี้สินจำนวนมาก พิจารณาจากอัตราหนี้ครัวเรือน
ที่ยังทรงตัวในระดับสูง หากรัฐบาลใหม่ไม่สามารถเข้ามาบริหารจัดการได้ อาจจะกดดันให้การจับจ่ายใช้สอยในช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นไปอย่างจำกัด
ประเด็นต้นทุนดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง ซึ่งได้ประมาณการไว้ตั้งแต่ปี 2565 แล้ว และคิดว่าตอนนี้ กนง.คงไม่น่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไปกว่านี้มากนัก ประเมินว่าจะคงสภาวะนี้ไปถึงสิ้นปี และมีโอกาสจะลดลงได้ในปีหน้า
ส่วนเรื่องราคาพลังงานซึ่งมีราคาแพงต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเฉพาะราคาน้ำมันซึ่งตลาดโลกก็เริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้ว สำหรับในประเทศจึงมีความเห็นว่าน่าจะมีการลดราคาลงจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน
ในขณะเดียวกัน นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัยสิ่งหนึ่งที่ทุกคนรอดู เพราะไม่ทราบว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นอย่างไร เรียบร้อยแค่ไหน แต่ผมคิดว่าครึ่งปีหลัง 2566 ถ้าทุกอย่างชัดเจนขึ้น ไม่ว่าทางไหนก็ตาม หวังว่าจะดีขึ้น
เราเห็นโมเมนตัม โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 1/66 มาได้ดีกว่าที่เราคาด จริง ๆ ก็ไม่ได้ดีมากหรอก แต่หลังจากหมดมาตรการผ่อนปรน LTV-loan to value แต่ยอดขายยังทำได้ระดับหนึ่งอยู่ ผมมองว่ายังน่าพอใจในแง่ตลาดยังเดินต่อไปได้
ไตรมาส 2/66 มีทั้งวันหยุดยาว มีการเลือกตั้ง มีความไม่แน่นอนทางการเมือง คนอาจชะลอดูท่าทีนิดนึง กับผลกระทบจากการเมือง แต่ครึ่งปีหลัง บรรยากาศการเมืองฝุ่นหายตลบน่าจะเริ่มดีขึ้น
เพราะฉะนั้น ปัจจัยห่วงที่สุดที่อาจจะมาจากความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นในประเทศนั้น ผมมองว่าประเทศไทยไม่น่าไปถึงจุดนั้น
สำหรับปัจจัยต้นทุน เช่น ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคาพลังงานแพง ล้วนเป็นสิ่งที่ลูกค้ารับทราบได้โดยทั่วไป จึงไม่ได้มองเป็นด้านลบเท่าไหร่ ยอมรับว่าต้นทุนแพงขึ้นจริง แต่ก็มีผลทำให้ลูกค้าเลือกซื้อบ้านขนาดเล็กลง หรือห้องชุดไซซ์เล็กลงนิดหน่อย ในระยะสั้น สิ่งที่ดีคือดอกเบี้ยขึ้น แต่การปล่อยสินเชื่อปีนี้ของแบงก์ยังดีอยู่
เช่นเดียวกับ นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการมีรัฐบาลใหม่ใน Q3/2566 นี้ว่า ในแง่ของภาคธุรกิจ เสถียรภาพเป็นสิ่งที่เราต้องการ ตอนนี้ประเด็นมันยากมาก ไม่ว่าใคร (พรรคการเมือง) มาก็ตาม แต่ละคนมีความอยากทำอะไรที่ไม่เหมือนกันประมาณหนึ่ง
ยกตัวอย่างให้ผมวิเคราะห์ ขอวิเคราะห์อย่างคนโง่ ๆ แบบไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ ผมมองว่าพรรคก้าวไกลเขาก็มีความต้องการ มีประเด็นที่เขาอยากจะเปิดให้มีการแข่งขัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ทำให้ประเทศเรามีโอกาสใหม่ ๆ ได้นักธุรกิจรุ่นใหม่ องค์กรขนาดเล็กที่ไม่มีโอกาสได้เจริญเติบโต อันนี้เราเห็นด้วย 100%
เพียงแต่ว่า transition ของการเคยมีระบบเดิมแล้วเปลี่ยนมาระบบใหม่ มีคนถามไถ่กันเยอะว่า แล้ว (การเมือง) จะทำให้สมูทได้ยังไง เป็นเสถียรภาพที่ผมคิดว่าเราเวลคัมนโยบายใหม่ เพียงแต่ transition อย่าไปเปลี่ยนซะจนมันไปไม่ได้
เรื่องที่ 2 นโยบายเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม 3 เรื่องนี้ถ้าทำพร้อม ๆ กัน โอ้โห… ยากนะ ดังนั้น อะไรที่สามารถทำทีหลังได้ ก็เก็บไปทำทีหลังก็ดี บางเรื่องถ้าเก็บไปทำทีหลังแล้วไม่กระทบกระเทือนอะไรมาก ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจก็อยากให้จัดลำดับนิดหนึ่งว่า อะไรที่ต้องรีบทำ อะไรเป็นจุดที่ปานกลาง อะไรเป็นจุดที่ระยะยาว
เรื่องที่ 3 เรื่องอสังหาฯ ทุกคนคุยไปหมดแล้วว่าอยากได้อะไร ขอเป็นซานตาคลอสทุกปี ตั้งแต่ผมทำงานมา 20 กว่าปีแล้วขอมาตลอด ถามผมวันนี้ ประเทศไทยมีจุดเด่นหลายอย่าง และเราไม่เคยเวลคัมนักลงทุนให้เข้ามาอยู่ในประเทศอย่างจริงจังเหมือนประเทศอื่น
ผมคิดว่าแน่นอน (ลูกค้าต่างชาติ) มีสีเทา เราก็ต้องหาทางสแกนสีขาวแยกออกจากสีเทาได้ พอยต์คือทำยังไงให้เขาสามารถเข้ามาอยู่ในประเทศเรา และเราสามารถได้ประโยชน์จากเขาให้ดีกว่านี้
เสถียรภาพของรัฐบาลเป็นภาพสะท้อนเสถียรภาพของประเทศทั้งระบบ ดังนั้นในไตรมาสที่ 3 นี้ สิ่งสำคัญยังเป็นทิศทางนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยให้ภาพด้านอื่นๆ ของประเทศรวมทั้งอสังหาริมทรัพย์มีความชัดเจนมากขึ้น
(ขอบคุณข้อมูล : ประชาชาติธุรกิจ)