“กู้ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน”

บทความเกี่ยวกับอสังหา

ใครเคยกู้ไม่ผ่านเพราะเหตุผลอะไรบ้าง

.

วันนี้ลองมาดูว่ากู้ผ่านและไม่ผ่านเขาวัดจากอะไร และสำหรับคนที่คิดอยากซื้อบ้านหรือคอนโดจะทำอย่างไรให้การยื่นขออนุมัติสินเชื่อผ่านฉลุย !

.

ต้องบอกว่าความจริงนั้นทุกธนาคารก็อยากจะอนุมัติสินเชื่อเพื่อปล่อยกู้อยู่แล้ว เพราะดอกเบี้ยจากสินเชื่อเหล่านี้ถือเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของธนาคาร แต่การปล่อยกู้นั้นก็เหมือนกับการให้ใครสักคนยืมเงิน ถ้าเรารู้ว่าการให้ยืมนั้นไม่มีทางได้เงินคืนอย่างแน่นอน ใครบ้างที่จะอยากให้ยืม

.

ดังนั้น ด่านแรกในการพิจารณาของธนาคารจึงเป็นเรื่องว่าใครคือคนขอยืม หรือคุณสมบัติของผู้ขอกู้สินเชื่อซึ่งโดยทั่วไปนั้นผู้ขอกู้จะต้องมีอายุระหว่าง 20-60 ปี เพราะถ้าหากน้อยหรือมากกว่านี้ก็จะพ้นออกจากช่วงวัยทำงานที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหารายได้มาจ่ายหนี้ได้นั่นเอง

.

นอกจากเรื่องของอายุ หน้าที่การงานก็ถือเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณา เพราะธนาคารจะต้องดูถึงความมั่นคงในอาชีพ การมีรายได้ที่เป็นหลักแหล่งชัดเจน รวมถึงชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัทที่เราสังกัดอยู่ก็ถือปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาเช่นกัน

.

ปัจจัยถัดมานั้น ได้แก่ความสามารถในการชำระหนี้หรือพูดง่ายๆ ก็คือเราสามารถจ่ายหนี้ได้เดือนละเท่าไหร่ ซึ่งก็จะพิจารณาจากรายได้และหนี้สินรวมทั้งหมดของเราที่มีอยู่ ทั้งหนี้บัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ และสารพัดหนี้ที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือน

.

โดยสัดส่วนที่ธนาคารส่วนใหญ่เห็นว่าเหมาะสมที่สุดนั้นก็คือ คนเราไม่ควรมีหนี้สินต่อเดือนเกินกว่า 40% ของรายได้ แต่ปัจจุบันธนาคาหลายแห่งก็ยอมอนุโลมให้ถึง 70% กันเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น หากเรามีรายได้ 20,000 บาท/เดือน ธนาคารจะยอมให้เรามีภาระผ่อนได้ไม่เกิน 70% ของรายได้ หรือเท่ากับ 14,000 บาท/เดือน

.

ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลรองลงมานั้นก็ได้แก่พวกเงินเก็บ เงินฝากในบัญชี หรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่เราเป็นเจ้าของและแสดงถึงการมีหลักประกันที่มั่นคง รวมถึงตัวสินทรัพย์ที่เราต้องการเป็นเจ้าของ ธนาคารก็จะดูว่าสินทรัพย์นั้นมีสภาพคล่องเป็นอย่างไร หากเกิดกรณีที่เราไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามที่กำหนดแล้ว ธนาคารจะสามารถนำสินทรัพย์นั้นๆ ออกขายทอดตลาดได้หรือไม่ 

.

เมื่อธนาคารพิจารณาจากปัจจัยทั้งหมดนี้เรียบร้อยแล้ว ก็จะตัดสินให้การขออนุมัติสินเชื่อนั้นๆ ผ่านและไม่ผ่านตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งถ้าการยื่นกู้รอบแรกของเรานั้นผลออกมาว่าไม่ผ่าน เราก็มีสิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ และหาเอกสารเพิ่มเติมประกอบการอุทธรณ์ตามที่ทางธนาคารได้แจ้งเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ผ่านการอนุมัติสินเชื่อได้เช่นกัน

.

นอกจากนี้ตัวของพนักงานสินเชื่อที่ทำเรื่องให้กับเราก็ถือว่ามีความสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะพนักงานสินเชื่อที่เก่งๆ นั้น จะสามารถทำให้การยื่นเรื่องของเราเป็นไปอย่างง่ายดายและมีโอกาสได้รับการอนุมัติที่สูงกว่า และแม้แต่ธนาคารเดียวกันแต่ต่างสาขาก็ยังให้ผลการอนุมัติสินเชื่อที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะการยื่นเรื่องทำโดยพนักงานสินเชื่อคนละคนกันนั่นเอง

.

สุดท้ายนี้เราต้องเข้าใจว่าเรื่องของการกู้ผ่านหรือไม่ผ่านนั้น ถือเป็นคนละเรื่องกับความสามารถในการผ่อนจ่ายจริงๆ ของเรา และการที่ธนาคารอนุมัติสินเชื่อให้กับเรานั้น ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะผ่อนจ่ายได้จริงตามที่กำหนดเสมอไปหากไร้ซึ่งวินัยและการวางแผนทางการเงิน

.

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับบทความนี้? และสำหรับใครที่เคยมีประสบการณ์ยื่นกู้กับธนาคารไหนมาบ้าง อย่าลืมแชร์ให้คนอื่นๆ ได้เป็นความรู้และข้อเตรียมตัวผ่านทางช่องคอมเมนต์

 

------------------------


อัศวินแอสเสท : ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ด้านอสังหาฯ ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในประเทศไทย เพียง 0.75% ต่อเดือน

ค่าดำเนินการต่ำ ไม่ผ่านหน้านาย อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สัญญาสูงสุด 10 ปี!! ไม่เช็คเครดิต ไม่เช็คการเงิน ไม่ต้องค้ำประกัน ปลอดภัย เชื่อถือได้

เพียงคุณมีสินทรัพย์หรือโฉนดที่ดิน ต้องการเงินด่วน
ปรึกษาเราได้ที่ โทร. 087-441-8888, 098-885-0479

Line@ : https://lin.ee/tIpO804


#AssawinAsset #รับจำนอง #รับขายฝาก #ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ #สินเชื่อดอกเบี้ยถูก
#อัศวินแอทเสทสินเชื่อเคียงข้างนักลงทุน