บทความเกี่ยวกับอสังหา
#อย่าเห็นว่าเป็นศัพท์กฎหมายที่ดูไกลตัวจนกดข้ามไป เพราะมิเช่นนั้นคุณอาจต้องเสียที่ดินให้กับใครก็ไม่รู้ไปแบบฟรีๆ ก็เป็นได้ !
.
ถ้าห้วงอวกาศและใต้ท้องทะเลคือดินแดนที่นักสำรวจมากมายต่างสงสัยใคร่รู้ โลกของ ‘ที่ดิน’ ก็คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดเร้นลับ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และมักสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับคนในวงการอสังหาฯ อย่างเราๆ ได้เสมอ
.
วันนี้ Assawin Aset จึงขอหยิบยกเรื่องราวสุดทึ่ง ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้าของที่ดินและอสังหาฯ ที่มีทรัพย์สินอยู่มากมายจนอาจไม่มีเวลาดูแลอย่างทั่วถึง
.
เพราะ คุณรู้หรือไม่? ว่าเรามีโอกาสสูญเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรืออสังหาฯ ของตัวเองให้กับใครก็ตามที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต เพราะคำนี้คำเดียว ‘สิทธิ์การครอบครองปรปักษ์’
.
สำหรับเจ้าของที่ดินและอสังหาฯ ทั้งหลายที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วชะล่าใจคิดว่าตัวเองได้ครอบครองโฉนด น.ส. 4 อย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว คงไม่มีอะไรต้องกังวลใจเกี่ยวกับการเสียกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้กับผู้อื่นได้แน่นอน ก็ต้องบอกเลยว่า #คุณคิดผิด
.
เพราะในมาตรา 1382 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น เป็นมาตราที่ว่าด้วยการเข้าครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นหรือเรียกว่า ‘การครอบครองปรปักษ์’ โดยมีข้อความดังนี้
.
“บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่า บุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์”
.
ถ้าแปลเป็นภาษาชาวบ้านอย่างเราๆ ก็คือ บุคคลใดที่เข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยสงบ เปิดเผย และมีเจตนาเป็นเจ้าของ เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 10 ปี บุคคลนั้นจะถือเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นทันทีผ่าน ‘สิทธิ์การครอบครองปรปักษ์’
.
แถมในตัวบทยังมีการระบุเพิ่มเติมไว้อีกด้วยว่า การจะเข้าหลักเกณฑ์ว่าเป็นการสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ได้นั้น ต้องเป็นทรัพย์สินที่เจ้าของกรรมสิทธิ์เดิม และมีเอกสารหลักฐานชัดเจน เช่น โฉนดที่ดิน
.
ดังนั้นแล้วการที่เรามีโฉนดที่ดินอยู่กับตัวนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้เรารอดพ้นจากการเสียรู้ได้แล้ว ยังถือเป็นเอกสารสำคัญที่จะทำให้เรามีโอกาสเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรืออสังหาฯ ของเราผ่านสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์อีกต่างหาก !
.
#ตัวอย่างเช่น นาย A และนาย B เป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนดซึ่งมีเขตที่ดินติดต่อกัน วันหนึ่งนาย A ได้รุกล้ำครอบครองเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนาย B เป็นระยะ 10 เมตร เพราะคิดว่าเป็นที่ดินของตนเอง
.
ส่วนนาย B เองก็รับทราบดี แต่ไม่ได้ติดใจหรือโต้แย้งคัดค้านแต่อย่างใด เวลาล่วงเลยผ่านไปจนครบ 10 ปี นาย B เสียชีวิตลง มรดกในที่ดินจึงตกเป็นของนาย C ผู้เป็นลูกชาย
.
นาย C ได้ทำการรังวัดที่ดินใหม่ และตรวจพบว่า นาย A ได้รุกล้ำที่ดินของพ่อตัวเองมาตลอด 10 ปี จึงต้องการให้นาย A ออกไปจากที่ดิน
.
ต่อมานาย A จึงทำการยื่นเรื่องต่อเจ้าพนักงาน เพื่อพิจารณาสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ ซึ่งผลปรากฎว่านาย A มีสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ครบถ้วนตามกฎหมาย และท้ายที่สุดที่ดินของนาย B และ นาย C ที่ถูกนาย A รุกล้ำมาตลอด 10 ปี ก็ตกเป็นของนาย A อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน
.
ดังนั้นแล้ววิธีการเดียวที่เจ้าของที่ดินจะสามารถทำได้เพื่อป้องกันปัญหานี้ ก็คือการหมั่นตรวจเช็กที่ดินที่ตนเองครอบครองอยู่อย่างสม่ำเสมอ เสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย และการทำรังวัดที่ดินทุกๆ 4 ปี เพื่อป้องกันปัญหาการถูกรุกล้ำที่ดินจนเป็นเหตุให้ต้องสูญเสียกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินผ่าน ‘สิทธิ์การครอบครองปรปักษ์’
------------------------
ติดตามเรื่องราวอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอสังหาฯ
ที่อ่านง่าย ได้ความรู้ พร้อมบริการซื้อ ขาย จำนอง ที่ดิน
อสังหาริมทรัพย์ บ้านและคอนโด ได้ที่ : https://assawinasset.com/
อัศวินแอสเสท : ให้บริการสินเชื่อเงินกู้ด้านอสังหาฯ ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในประเทศไทย เพียง 0.75% ต่อเดือน
ค่าดำเนินการต่ำ ไม่ผ่านหน้านาย อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สัญญาสูงสุด 10 ปี!! ไม่เช็คเครดิต ไม่เช็คการเงิน ไม่ต้องค้ำประกัน ปลอดภัย เชื่อถือได้
เพียงคุณมีสินทรัพย์หรือโฉนดที่ดิน ต้องการเงินด่วน
ปรึกษาเราได้ที่ โทร. 087-441-8888, 098-885-0479
Line@ : https://lin.ee/tIpO804
#AssawinAsset #รับจำนอง #รับขายฝาก #ฝากขายอสังหาริมทรัพย์ #สินเชื่อดอกเบี้ยถูก
#อัศวินแอทเสทสินเชื่อเคียงข้างนักลงทุน